โคลอสตรุ้ม (Colostrum) คืออะไร เรามารู้จักกันเถอะ

โคลอสตรุ้ม (Colostrum) คืออะไร ?

      โคลอสตรุ้ม (Colostrum) น้ำนมเหลือง หรือหัวน้ำนมนั้นเป็นอาหารที่มีความโดดเด่น สร้างมาเพื่อการเสริมสร้างการเจริญเติบโตของเด็กและสร้างภูมิคุ้มกัน โดยโคลอสตรุ้มจะเป็นน้ำนมแรกที่ทางต่อมน้ำนมจะสร้างขึ้นทันทีหลังจากการคลอด เนื้อนมจะมีสีเหลืองข้น อุดมไปด้วยสารอาหารอย่างเข้มข้น เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงกับลูกน้อย เพื่อที่จะต่อสู้กับสภาพแวดล้อมภายนอก ที่เต็มไปด้วย เชื้อโรค สารเคมี ที่มีอยู่ในอากาศและสิ่งแวดล้อมรอบตัวเด็ก

 

โคลอสตรุ้ม (Colostrum) หาได้จากที่ไหนบ้าง

คงพูดไม่ผิดถ้าจะบอกว่าน้ำนมโคลอสตรุ้มที่ดีที่สุด ก็คือโคลอสตรุ้มที่ได้จากน้ำนมแม่ แต่หัวน้ำนมโคลอสตรุ้มจากนมแม่นี้จะหมดไปภายใน 1-3 วันแรกหลังจากการคลอด นอกจากนมแม่ เราก็ยังสามารถหาโคลอสตรุ้มทานเสริมได้จากแหล่งอื่นๆ ได้อีกเช่น โคลอสตรุ้มจากน้ำนมวัว ที่ปัจจุบันมีการผลิตออกมาในหลากหลายรูปแบบมาพร้อมสารอาหารที่อัดแน่นอยู่เช่นกัน

 

ที่มาของโคลอสตรุ้ม (Colostrum) จากนมวัว

       นายแพทย์อัลเบิร์ต ซาบิน ผู้ที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นผู้คิดค้นวัคซีนโรคโปลิโอคนแรก ได้ทดสอบผลิตสร้างภูมิต้านทานจากโคลอสตรุ้มของวัว และได้ออกมาสนับสนุนให้มีการใช้โคลอสตรุ้ม
หลังจากนั้น 40 ปี แคมเบลล์และปิเตอร์สัน ได้ทำการทดลองผลิตวัคซีนที่ใช้สำหรับเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน โดยการฉีดเชื้อโรคต่างๆ ที่อ่อนแอเข้าไปยังตัวแม่วัวก่อนที่จะคลอดลูกเพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกันของแม่วัว และได้เก็บรวบรวมโคลอสตรุ้มจากแม่วัวมาใช้ทดลองทำวัคซีน
ในปี ค.ศ. 1992 คุมเมอร์ เป็นคนแรกที่ทำการทดลอง โคลอสตรุ้ม และได้พิสูจน์ให้เห็นว่า โคลอสตรุ้มที่ได้จากวัวที่ไม่ได้มีการฉีดวัคซีน ช่วยป้องกันโรคกระเพาะอาหารและสำไส้เล็กในเด็กทารกได้
และในปี ค.ศ. 1998 แมคคอลเนลและทีมงานที่มหาวิทยาลัยโอตาโก ประเทศนิวซีแลนด์ ได้ทำการวิจัยต่อและพิสูจน์ว่า โคลอสตุ้มจากแม่วัวที่ปล่อยให้กินหญ้าเองตามธรรมชาติ โดยไม่มีการฉีดวัคซีนใส่ตัววัว จะมีประสิทธิภาพในการสร้างภูมิต้านทาน ได้ดีกว่าแม่วัวที่มีการฉีดวัคซีน
หลังจากนั้น อุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์นมในประเทศนิวซีแลนด์ ได้ให้ความสนใจและร่วมเริ่มการผลิตโคลอสตรุ้มในเชิงพาณิชย์ โดยมีการร่วมมือกันของเจ้าของฟาร์มโคนมหลายร้อยคนช่วยกันพัฒนา โคลอสตรุ้ม ให้มีความสะอาดปลอดเชื้อ และปลอดภัย

 

แหล่งผลิตน้ำนมโคลอสตรุ้มน้ำนมวัว มีที่ไหนบ้าง

แหล่งผลิตหัวน้ำนมโคลอสตุ้ม (Colostrum) นั้นมีอยู่หลากหลายที่ ถ้าพูดถึงว่าแหล่งผลิตน้ำนมที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่ง นั่นก็คือประเทศนิวซีแลนด์ เนื่องจากการเลี้ยงมีระบบที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของโลก รวมถึงกระบวนการผลิตที่ได้มาตรฐาน
และการใช้ยาปฎิชีวนะและฮอร์โมนก็ผิดกฎหมาย โคลอสตรุ้มที่ได้จากฟาร์มจากประเทศนิวซีแลนด์ จึงได้มาตรฐานและปลอดภัย

 

สารอาหารที่อัดแน่นในโคลอสตุ้มมีอะไรบ้าง

1.ตัวประกอบภูมิคุ้มกันโรค (Immune Factor)– เป็นสารที่มีความสามารถในการต่อสู้กับเชื้อไวรัส แบคทีเรีย รวมถึงสารพิษอื่นๆ ได้
2. สารโปรตีนภูมิคุ้มกัน (Immunoglobulins) – เป็นสารที่มีความสำคัญ มีหน้าที่ช่วยในการป้องกันการติดเชื้อไวรัส แบคทีเรีย เชื้อรา โดยจะมีอยู่ทั้งหมด 5 ชนิด คือ IgA , IgD , IgE ,IgG และ IgM

3.ตัวประกอบการเจริญเติบโต (Growth Factor)– เป็นสารที่มีผลต่อการเจริญเติบโตของตัวเด็ก
4. สารต่อต้านเชื้อโรค (Antibodies) เป็นสารที่ช่วยต่อต้านเชื้อโรคที่เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรค
5. สาร PRP (Proline – Rich – Polypeptide) เป็นสารประกอบโมเลกุลของกรดอะมิโนหลาดชนิดที่ต่อกันเป็นสายยาว ทำให้ต่อมไธมัสทำงานได้ดี กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย
6. ไกลโคโปรตีน (Glycoprotein) – มีคุณสมบัติในการป้องกันภูมิคุ้มกัน และตัวประกอบการเจริญเติบโต ที่มีอยู่ในโคลอสตรุ้มไม่ให้ถูกย่อยสลายจากน้ำย่อยในลำไส้
7. แลคโตเฟอรร์ริน (Lactoferrin) – เป็นสารโปรตีนสำคัญที่มีคุณสมบัติพิเศษ ช่วยจับธาตุเหล็ด โดยเฉพาะในลำไส้ ทำให้เชื้อแบททีเรียในทำไส้หยุดการเจริญเติบโต และตายในที่สุด
8. ไซโตไคน์ (Cytokines) – เป็นสารที่ช่วยการทำงานของเซลล์เม็ดเลือดขาวชนิด Lymphocyte หรือ T-Cell ของระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ช่วยต้านเชื้อไวรัส
9. แลตตัลบูมิน (Lactalbumin) – เป็นโปรตีนอีกตัวหนึง่ที่มีส่วนช่วยในการเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน และป้องกันภูมิแพ้
10. วิตามินและเกลือแร่ (Vitamin & Minerals) – ในน้ำนมโคลอสตรุ้มก็ยังมีวิตามินและเกลือแร่ที่ร่างกายต้องการอย่างสมดุล
11. ริล เปปไทด์ (Neural Peptide) – เป็นสารอาหารโปรตีนชนิดจำเพาะของเซลล์ต้นกำเนิด (Stem Cell) ส่งผลโดยตรงกับการเจริญเติบโตของเซลล์ในร่างกายของทุกอวัยวะ

 

ประโยชน์ของโคลอสตรุ้ม (Colostrum) หลักจากที่เราได้รู้ถึงสารอาหารที่อัดแน่นในน้ำนมโคลอสตรุ้มแล้ว เรามาดูกันต่อถึงประโยชน์ที่เราได้ทานโคลอสตรุ้มกันต่อเลยค่ะ
คุณประโยชน์หลักที่สำหรับของหัวน้ำนม หรือ โคลอสตรุ้มนั่นก็คือ การช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันของร่างกาย ทำให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกันมากขึ้นโดยธรรมชาติ ช่วยต่อสู้กับเชื้อโรคต่างๆ ที่เข้ามาในร่างกายได้ดีขึ้นและนอกจากนี้โคลอสตรุ้มยังมีประโยชน์ในด้านอื่นๆ อีกเช่น

 

โคลอสตรุ้ม (Colostrum) เหมาะกับใครบ้าง

1.กลุ่มเด็ก
สำหรับเด็กนั้นโคลอสตุ้มเป็นอาหารที่สำคัญมากตั้งแต่แรกเกิด ที่ช่วยส่งเสริมภูมิคุ้มกัน ป้องกันเชื้อโรคต่างๆ จากสภาพแวดล้อมภายนอก เสริมพัฒนาการ และยังช่วยเสริมสร้างการเจริญเติบโตได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
2. กลุ่มผู้ใหญ่ วัยทำงานและคนชรา
เมื่อเราเริ่มมีอายุมากขึ้น ร่างกายจะเริ่มผลิตฮอร์โมนเพื่อการเจริญเติบโต หรือ โกรทฮอร์โมน (Growth Hormone) ลดน้อยลงและช้าลง ส่งผลทำให้ร่างกายแก่ชรา
ซึ่งการที่เราทานโคลอสตรุ้มเข้าไป จะส่งผลให้ร่างกายกระตุ้นการสร้างโกรธฮอร์ฺโมน ลดความเสื่อมถอยของอวัยวะของร่างกาย ทำให้ร่างกายแข็งแรง และทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
3. กลุ่มนักกีฬา
นักกีฬาเป็นกลุ่มที่ต้องใช้ร่างกายอย่างหนัก ทำให้ร่างกายมีโอกาสที่จะทรุดโทรมได้เร็ว ถ้าหากได้รับสารอาหารที่ไม่เพียงพอ การทานโคลอสตรุ้มเป็นอาหารเสริมก็มีส่วนช่วยในด้านการฟื้นฟูร่างกาย
และยังมีผลการทดสอบระบุว่า โคลอสตรุ้มมีผลทางบวกกับการออกกำลังกาย ทั้งในด้านเพิ่มพลังงานให้กับร่างกาย เสริมสร้างสมรรถนะความยืดหยุ่นของร่างกาย
4. กลุ่มคุณแม่ที่ตั้งครรภ์
การทานโคลอสตรุ้มในระหว่างการตั้งครรภ์ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเสมอ แต่เมื่อหลังคลอด คุณแม่มือใหม่สามารถทานโคลอสตรุ้มเพื่อบำรุงร่างกายได้ เนื่องจากหลังคลอดภูมิคุ้มกันของคุณแม่จะลดลงอย่างมาก ทำให้สามารถฟื้นตัวหลังคลอดได้อย่างรวดเร็ว
5. กลุ่มผู้ป่วยหลังผ่าตัดและพักฟื้น
โคลอสตรุ้มนั้นจะช่วยในการฟื้นฟูเซลล์ที่เสื่อมถอย โดยสร้างเซลล์ใหม่เข้าไปซ่อมแซมในอวัยวะที่อ่อนแอ หรือพึ่งได้รับการผ่าตัดมา ทำให้สามารถฟื้นตัวจากการผ่าตัดได้เร็วขึ้น
6. กลุ่มผู้ป่วยหลังผ่าตัดและพักฟื้น
โคลอสตรุ้มนั้นจะช่วยในการฟื้นฟูเซลล์ที่เสื่อมถอย โดยสร้างเซลล์ใหม่เข้าไปซ่อมแซมในอวัยวะที่อ่อนแอ หรือพึ่งได้รับการผ่าตัดมา ทำให้สามารถฟื้นตัวจากการผ่าตัดได้เร็วขึ้น